ทรู คอร์ปอเรชั่น เผยทิศทางนวัตกรรมเปลี่ยนอนาคต พลิกเกมธุรกิจโลก พร้อมแนะองค์กรเร่งปรับแนวคิดและทิศทาง เพื่อคว้าโอกาสในทศวรรษหน้า

Thought Leadership
|
06 ต.ค. 2025
Table of Content
Related Business
True Digital Park
TDG Editor
TDG Editor
ทรู คอร์ปอเรชั่น เผยทิศทางนวัตกรรมเปลี่ยนอนาคต พลิกเกมธุรกิจโลก พร้อมแนะองค์กรเร่งปรับแนวคิดและทิศทาง เพื่อคว้าโอกาสในทศวรรษหน้า
Table of Content

ทรู คอร์ปอเรชั่น เผยทิศทางนวัตกรรมเปลี่ยนอนาคต พลิกเกมธุรกิจโลก พร้อมแนะองค์กรเร่งปรับแนวคิดและทิศทาง เพื่อคว้าโอกาสในทศวรรษหน้า

กรุงเทพฯ 26 กันยายน 2568-คุณเอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น ได้เผยวิสัยทัศน์บนเวทีเสวนา “Digital & AI Intelligence Unleashed” ในงาน CP Innovation Exposition and Symposium 2025 ซึ่งจัดขึ้นโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมสร้างอนาคตเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า – Innovate the Future for a Better Tomorrow” โดยคุณเอกราชได้เน้นย้ำถึงศักยภาพอันมหาศาลของเทคโนโลยีในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก ความรวดเร็วของคลื่นความเปลี่ยนแปลงจากนวัตกรรม เทคโนโลยีที่จะกำหนดทิศทางของโลกในทศวรรษหน้า และกลยุทธ์ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถก้าวเดินสู่ความสำเร็จได้

คุณเอกราช เผยว่า หากมองย้อนกลับไปดูความเคลื่อนไหวของดัชนี S&P 500 จากอดีตจนถึงปลายปี 2024 จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีและการอยู่รอดหรือเติบโตขององค์กรธุรกิจมีความสัมพันธ์กันชัดเจน บางผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจไม่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน ขณะที่ธุรกิจที่ยังคงอยู่ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากด้วยพลังของนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียหรือสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ เทคโนโลยีในระยะหลังอย่าง Generative AI หรือการเดินทางสู่อวกาศในเชิงพาณิชย์ (commercial spaceflight) สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วมากเมื่อเทียบกับนวัตกรรมในยุคก่อน จึงยิ่งตอกย้ำความสำคัญของนวัตกรรมที่มีต่อองค์กรในยุคนี้

ส่องเส้นทางการเติบโตของนวัตกรรม: รูปแบบ ความก้าวหน้า และผลกระทบต่อตลาด

นอกจากภาคธุรกิจแล้ว กระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมเองก็เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีและแนวคิดในแต่ละยุค จากในยุค 90 ที่มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนา (R&D) ขยับมาสู่ยุค 2000 ที่นำหลักการ Design Thinking เข้ามาระบุปัญหา ทดลองหาวิธีแก้ และสร้างเป็นนวัตกรรม และต่อมาในช่วงทศวรรษ 2010 ที่ขยับมาเป็นแนวคิดแบบ Agile การจัดทีม-จัดเวลาทำโปรเจกต์ด้วยหลักการ Sprint และ Squad ก่อนจะนำมาสู่ปัจจุบัน ที่การสร้างนวัตกรรมจะต้องมี AI เป็นรากฐานสำคัญ ใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด และพัฒนาขึ้นในรูปแบบแพลตฟอร์ม ส่วนนวัตกรรมที่เกิดขึ้นนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ตามความสดใหม่ของเทคโนโลยีและผลที่มีต่อตลาด ดังนี้

  • Incremental Innovation นวัตกรรมที่มีความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีไม่มาก และสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาดได้ไม่มากเช่นกัน เช่นการออกรถยนต์รุ่นใหม่ สินค้ารสชาติใหม่
  • Sustaining Innovation นวัตกรรมที่รักษาความเป็นผู้นำตลาด เช่นการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปตัวใหม่
  • Radical Innovation นวัตกรรมที่มีความสดใหม่มากๆ ทางเทคโนโลยี แต่ยังไม่สร้างกระแสความเปลี่ยนแปลงมากนักในตลาด เช่นสมาร์ทโฟนจอพับ
  • Disruptive Innovation ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ทรงพลังที่สุด พลิกโฉมอุตสาหกรรมได้มากที่สุด เช่นการมาถึงของบริการ ride sharing ต่างๆ ที่นำความสามารถหลากหลายของสมาร์ทโฟนมาต่อยอดเป็นบริการที่ตอบโจทย์ด้านการเดินทางในชีวิตประจำวันได้​ โดยที่เจ้าของบริการไม่ต้องลงทุนซื้อรถมาบริการลูกค้าแม้แต่คันเดียว

10 เทรนด์นวัตกรรม พลังที่พร้อมเปลี่ยนอนาคต

เมื่อมองไปข้างหน้าว่าเทรนด์เทคโนโลยีในอีก 5-10 ปีจะเป็นอย่างไร คุณเอกราช เปิดเผยถึง 10 พลังนวัตกรรมเทคโนโลยีที่จะกำหนดอนาคตของโลกใบนี้และสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่ามหาศาล ไม่ว่าจะเป็น

  • Living Intelligence — เมื่อเครื่องมือดิจิทัล รวมเป็นหนึ่งเดียวกับ Biotechnology เกิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ เช่น การควบคุมและสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ผ่านสมอง (brain-computer interface) และการทำนายภาวะทางสุขภาพ ป้องกันโรคภัยต่างๆ ด้วยข้อมูลจากร่างกายของเราเอง
  • Action Models – AI จะถูกพัฒนาให้มีความสามารถเกินกว่าการใช้ภาษาในแบบของ Language Model ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน ไปสู่การเป็น Action Model ที่สามารถลงมือทำงานได้จริง ไม่เพียงให้ข้อมูลหรือตอบคำถามเท่านั้น
  • Robotics Break Free — หุ่นยนต์จะออกมาทำงานนอกขอบเขตของสภาพแวดล้อมควบคุม (controlled environment) เช่น จากที่เคยทำงานอยู่ภายในโรงงาน อนาคตจะมีโดรนบินส่งของ มีหุ่นยนต์ที่รูปร่างคล้ายคลึงมนุษย์ออกมาช่วยงานมนุษย์ ขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนสมองอยู่เบื้องหลังหุ่นแต่ละตัว
  • Agentic AI — AI ที่สามารถลงมือทำงานหรือให้ข้อเสนอแนะได้โดยไม่ต้องให้ถาม เพียงให้แนวทางความต้องการไปก็สามารถทำงานและนำผลลัพธ์กลับมาให้เราได้ด้วยตัวเอง ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีใช้กันแล้ว และนับเป็นการเปิดประตูสู่ยุคต่อไปในการใช้ AI
  • Metamaterials — การสร้างวัสดุในรูปแบบใหม่ โดยมีโครงสร้างขนาดเล็ก (Nano Structure) ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เช่น เลนส์ที่บางมากๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือไม้ที่มีเนื้อแข็งแรงทนทานเหมือนเหล็ก
  • Unlikely Alliances — ความร่วมมือและการทำงานร่วมกันแบบข้ามอุตสาหกรรมที่จะมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • Climate Innovation — นวัตกรรมด้านพลังงาน นับตั้งแต่พลังงานสะอาดไปจนถึงการบริหารจัดการพลังงานให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียพลังงานโดยไม่เกิดประโยชน์
  • Nuclear Resurgence — เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactors) อาจถูกนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในบ้าน กลายเป็นแหล่งพลังงานสะอาดในระดับผู้ใช้รายย่อย
  • Quantum Leap — การนำ Quantum Computing เข้ามาแก้ไขปัญหาที่เทคนิค วิธีการ และเทคโนโลยีในปัจจุบันยังทำไม่ได้ หรือทำได้ไม่เร็วพอ จากเดิมที่ต้องใช้เวลาแก้ปัญหา 5 ปี อาจจะใช้เวลาเหลือเพียง 5 นาที และหากนำมาใช้งานร่วมกับ AI ก็จะทลายข้อจำกัดเดิมๆ ได้ในหลายมิติ
  • Cislunar Economy — การสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากอวกาศ รวมถึงในด้านโทรคมนาคม ซึ่งอาจรวมถึงการขยายเครือข่ายสัญญาณต่างๆ ขึ้นสู่อวกาศและดวงจันทร์

“Hyper-Convergence” การหลอมรวมที่เปลี่ยนโลก

ทั้ง 10 เทรนด์นวัตกรรมนี้ เป็นผลมาจากสภาวะ “Hyper-Convergence” เมื่อโลกของเรามีการหลอมรวม ผสมผสานกันในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น

  • Converging Skills เมื่อคนทำงานต้องมีทักษะที่หลากหลายมากขึ้น ไม่มีเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างทักษะด้านเทคโนโลยีและธุรกิจเหมือนในอดีต
  • Converging Technologies เมื่อเทคโนโลยีแต่ละอย่างไม่ได้ทำงานแยกออกจากกัน แต่สามารถควบรวมและผสานกันจนเกิดเป็นศักยภาพใหม่ๆ และนวัตกรรมขึ้น
  • Converging Partnerships กับความร่วมมือใหม่ๆ ในภาคธุรกิจ นับตั้งแต่คู่แข่งที่หันมาจับมือกัน ไปจนถึงความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันและความท้าทายในรูปแบบใหม่ๆ ไปพร้อมกัน
  • Converging Data การผสมผสานข้อมูลจากหลายแหล่งและภาคส่วน นำมาวิเคราะห์ให้เกิดความเข้าใจที่เป็นประโยชน์ นำไปขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างแม่นยำกว่า

3 กลไกหลัก หนุนนวัตกรรม ขับเคลื่อนความสำเร็จยุค AI

การสร้างนวัตกรรมให้เกิดขึ้นในองค์กร ไม่เพียงอาศัยทักษะความสามารถของนวัตกร แต่องค์กรยังต้องมีระบบนิเวศที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม ภายใต้วิสัยทัศน์และการสนับสนุนจากผู้นำองค์กร ตลอดจนความร่วมมือของพนักงานทุกคน เพื่อผลักดันให้เกิดการนำเทคโนโลยี โดยเฉพาะดิจิทัลและ AI ไปใช้จริง ก่อเกิดนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายและความไม่แน่นอนที่องค์กรต้องเผชิญ โดยคุณเอกราชได้ทิ้งท้าย 3 องค์ประกอบสำคัญ เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม ได้แก่

  • กำหนดและวางแผนครอบคลุมทุกมิติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับทุกความเป็นไปได้ ทั้งโอกาสและความเสี่ยงรอบด้าน
  • กล้าทดลอง กล้าทำสิ่งใหม่ๆ ซึ่งองค์กรอาจต้องปรับเปลี่ยนกฎระเบียบ วิถีปฏิบัติ และกระบวนการต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ออกแบบองค์กรให้ยืดหยุ่น พร้อมเรียนรู้และปรับเปลี่ยนตัวเอง ทั้งยังยอมรับได้ในความล้มเหลวที่เป็นประสบการณ์ให้ได้เรียนรู้และเติบโต
 

Related Business
True Digital Park
TDG Editor
TDG Editor